วันอังคาร, กันยายน 15, 2552

ANTIVIRUS

• AVG Anti-Virus (Trial Versions) AVG Anti-Virus Trial Edition : เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อดังของโลกนะครับ ซึ่งเจ้าตัว AVG นอกจากจะมีดีเพราะความ ฟรี ของมันแล้ว มันยังมีความสามารถป้องกันไวรัสได้ดีไม่แพ้ของที่เสียตังค์แต่อย่างใด มีการ Update ข้อมูลไวรัสอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่หน่วงเครื่องของคุณอีกต่างหากแถมยังมีฟังก์ชั่น Real-time protection เปรียบเสมือนยามค่อยเฝ้ามองไวรัสอยู่ตลอดเวลา
• Avira AntiVir Personal - Free Antivir Personal Edition : ฟรีแวร์โปรแกรมป้องกันแอนตี้ไวรัส (Anti-Virus Software) จากประเทศเยอรมันนี ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ได้รับรางวัล THE BEST FREEWARE ของโปรแกรมประเภท AntiVirus จาก CHIP นิตยาสารคอมพิวเตอร์ชื่อดังระดับโลก มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ลูกเล่นและ ความสามารถไม่แพ้โปรแกรมอื่นๆ ปราบไวรัสได้มากว่า 300,000 ชนิด พร้อมระบบการ อัพเดท ข้อมูลไวรัสในเครื่องท่าน แบบอัตโนมัติ ให้ไม่ล้าหลัง และตามไวรัสเหล่าร้ายทันละครับ เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่คอ อินเตอร์เน็ต และดาวน์โหลดจะพลาดไม่ได้ .... มีโปรแกรมนี้เอาไว้ เปรียบเสมือนมี หน่วยรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ชั้นดี ประจำการอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน เพื่อป้องกันกานบุกรุกต่างๆ จากเหล่าบรรดาไวรัส
• avast! 4 Home Edition (โปรแกรม ป้องกัน ไวรัส) avast! 4 Home Edition (โปรแกรม ป้องกัน ไวรัส) : โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรม ป้องกันไวรัส หรือ "Anti Virus" ชั้นดีอีกหนึ่งตัวครับ ที่ถือได้ว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากอีกตัวนึง เพราะโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบ (Detect) และกำจัด (Delete & Kill) ได้ทั้งไวรัสประเภทธรรมดา หรือไวรัสประเภท หนอน (Worm) และสุดท้าย ที่สำคัญนั่นก็คือ โทรจัน (Trojan) เรียกได้ว่า เขารับประกันได้เลยว่า โปรแกรมนี้สามารถใช้งานได้ผลแบบชนิดที่เรียกว่า 100% ครับ ซึ่งเขามีรางวัล 2002 Virus Bulletin Reviews เป็นเครื่องรับรองอยู่แล้วครับ แถมยังไม่พอในบอร์ดชื่อดังอย่าง พันทิพย์ ยังเชียร์เจ้าตัวนี้กันออกหน้าออกตา ... สำหรับความสามารถของเจ้าตัวโปรแกรมนี้ โดยสังเขป นั้นก็โปรแกรมนี้สามารถที่จะปรับเปลี่ยน Skin หรือหน้าตา ของการใช้งาน (Interface) ได้อย่างตามใจชอบ, มีระบบตรวจสอบหาไวรัส ทั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เอง และไวรัสที่อาจจะมาจากอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นทาง E-Mail หรือ เว็บไซต์ (Web Access) โดยการตรวจสอบนี้ จะทำตั้งแต่ การเริ่มเปิดเครื่อง (Boot) เลยละครับ ซึ่งนอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี ของ iAVS technology โปรแกรมนี้ ยังมีระบบการ Update ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส ตัวใหม่ๆ ที่อาจจะ เพิ่งเกิดขึ้นมาได้แบบอัตโนมัติ อาจจะเป็น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วแต่ความเหมาะสม
• FixTool (Sircam Remover) FixTool (Sircam Remover) : โปรแกรมนี้เอาไว้ กำจัด เจ้าตัว ไวรัส Sircam นะครับ ซึ่งเป็นไวรัสลูกโซ่ ที่แพร่ระบาดเข้ามาทาง E-Mail ของท่าน สำหรับ ตัวนี้ เป็นอีกตัวหนึ่งที่หลายคนลองใช้แล้วบอกว่า ได้ผล มากเลยทีเดียว ทางทีมงาน ไทยแวร์ เราก็เลยขอ แนะนำ กันมานะครับ สำหรับจุดเด่นของ โปรแกรม FixTool นี้คือ ว่ามีขนาดเนื้อที่ของโปรแกรมที่น้อยมาก จึงทำให้ ดาวน์โหลด ได้รวดเร็ว ทันใจ และ ทำการตรวจสอบอย่างได้ผล ครับ เพราะ โปรแกรมนี้ ทำมาเพื่อกำจัด เจ้าตัวไวรัส Sircam นี้โดยตรง จากค่ายที่พัฒนา โปรแกรม Antivirus ชื่อดัง อย่าง Symantec ลองเอาไปใช้ดูนะครับ (Thanks a lot NECTEC) How to USE : 1. รันไฟล์ FixSirc.com ที่ท่านได้ ดาวน์โหลด มาเสร็จแล้ว 2. จากนั้นก็รอครับ โดยโปรแกรมก็จะทำการ Scan และลบไฟล์ที่เป็นไวรัส พร้อมทั้งแก้ไข Registry และแก้ไขไฟล์ autoexec.bat ให้เสร็จสรรพ เรียบร้อย และสุดท้ายก็จะทำการ แจ้งให้ท่านทราบว่า พอ ไวรัส หรือไม่ ในเครื่องของท่าน
• ESET NOD32 Antivirus NOD32 Antivirus System (โปรแกรม กำจัดไวรัส ที่สามารถอัพเดทข้อมูลไวรัสตัวใหม่ได้แบบอัตโนมัติตลอดเวลา และยังใช้เวลาในการอัพเดทน้อยมาก) : ด้วยความสามารถของ NOD32 สำหรับ Windows ที่จะปกป้องคุ้มครองคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณ , คุณจะไม่ต้องกังวลกับไวรัสที่น่ารำคาญอย่าง Netsky, Mydoom และ Lovebug อีกต่อไป NOD32 จะปกป้องคุณ NOD32 ใช้งานได้ง่ายและให้ความปลอดภัยระดับองค์กรที่บ้านของท่าน หลังจากที่ติดตั้งเสร็จสิ้น AMON ผู้ดูแลตรวจสอบระบบตลอดเวลา จะทำงานอยู่ด้านหลัง ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัย IMON ผู้ดูและตรวจสอบอีเมล์ จะสแกนทุกๆเมล์ที่คุณรับ และตรวจหาไวรัสและทำการกำจัดก่อนที่ไวรัสจะมีโอกาสเข้ามาและทำร้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ และเมื่อมีการอัปเดทใหม่ๆ เข้ามา, NOD32 จะทำการอัปเดทโดยอัตโนมัติ ให้คุณมั่นใจว่าคุณจะมีฐานข้อมูลไวรัสล่าสุด ... NOD32 สำหรับ Windows ได้มอบการป้องกันไวรัสชั้นยอดให้กับผู้ใช้ทั่วไป และไฟล์เซิรฟ์เวอร์. NOD32 สำหรับ Windows จะดูแลระบบไฟล์ทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา และสแกนอีเมล์ที่ติดไวรัสก่อนที่เข้ามาในระบบ และยังใช้ Advanced Heuristics ซึ่งทำให้ NOD32 สามารถตรวจจับไวรัสและหยุดการทำงานของไวรัสพวกนั้นก่อนที่จะมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสตัวนั้นออกมา ในขณะนี้ , NOD32 ถือเป็นผู้นำในการได้รับรางวัลการตรวจจับได้ 100 % มากกว่าระบบป้องกันไวรัสอื่น. กว่า 6 ปีที่ NOD32 ไม่พลาดการตรวจจับไวรัส In-The-Wild แม้แต่ตัวเดียวในการทดสอบของ Virus Bulletin ... Program Advantages (จุดเด่นของโปรแกรมนี้) : จุดเด่นของ NOD32 Antivirus System อยู่ที่ตัวโปรแกรมมีขนาดเล็ก ทำให้ - ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน - อัพเดตได้เร็ว เพราะไฟล์มีขนาดเล็กเพียงประมาณ 2 KB เท่านั้น - ตรวจสอบไวรัสได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก ไม่ทำให้เครื่องทำงานช้าลง - ใช้ได้กับ Windows 95/98/ME/2000/XP

5 โปรแกรม ที่ช่วยให้คุณใช้งาน Windows ได้ดีขึ้น

1. Windows xKill
(download
http://solo-dev.deviantart.com/art/Windows-xKill-100737525 )
คุณเคยเจอปัญหาโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่เกิดค้างรึเปล่า? โดยปกติเวลาคุณเจอปัญหาแบบนี้คุณมักกด Ctrl + Alt +Del เพื่อเรียก Task Manager ขึ้นมา แล้วทำการ End โปรแกรมเหล่านั้น
Windows xKill สามารถ End โปรแกรมที่ค้างได้ไวกว่าการเรียก Task Manger ขึ้นมามาก ๆ
Windows xKill เป็นโปรแกรมเล็ก ๆ ที่ดัดแปลงมาจาก xKill ที่ใช้บน Linux ตัวโปรแกรมมีขนาดเพียง 18KB เท่านั้น และไม่จำเป็นต้องทำการ install แต่อย่างใด คือสามารถใช้งานได้ทันทีที่โหลดมันมา
เมื่อคุณ enable มันไปไว้ที่ tray icon คุณเพียงแค่กด Ctrl + Alt + Backspace เพียงเรียก xKill ขึ้นมาใช้งาน จากนั้นคุณก็สามารถเลปิดโปรแกรมที่ค้าง หรือไม่ต้องการได้ทันที




2. DropCommand
(download
http://www.donationcoder.com/Software/Skrommel/index.html#DropCommand)
คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ใช้ command prompt บน Windows แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ DropCommand จะช่วยให้คุณใช้งานcommand prompt บน Windows ได้ง่ายขึ้น
DromCommand ทำให้คุณสามารถ “drag and drop” ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องพิมพ์คำสั่งที่ command prompt ด้วยตนเอง



3. Fences
(download
http://www.stardock.com/products/fences/ )
ถ้าคุณมีหน้าจอ desktop ที่ยุ่งเหยิง และมี icon ต่าง ๆ บนหน้าจอเยอะแยะมากมายไปหมด Fences ช่วยคุณได้
Fences เป็น free software ที่พัฒนาโดย Stardock ผู้พัฒนาโปรแกรมดังอย่าง ObjectDock โดยโปรแกรม Fences นี้จะทำให้คุณสามารถจัดการกับ icon ต่าง ๆ บนหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานหลัก ๆ นั้น Fences จะช่วยคุณจัดระเบียบของ icon บน desktop โดยสร้างสิ่งที่เรียกว่า container ขึ้นมา ซึ่งคุณสามารถนำ icon ต่าง ๆ แยกไปวางไว้ในแต่ล่ะ container ทำให้เกิดความเป็นระเบียบของ icon และเป็นการเป็นกลุ่มแบ่งประเภทของ icon ด้วยเช่นกัน




4. Just Close Some Task
(download
http://www.donationcoder.com/Forums/bb/index.php?PHPSESSID=4tmanr1onnfbpakp9t9ejine64&topic=16018.0/ )
ถ้าคุณมีนิสัยชอบเปิดโปรแกรมขึ้นมาทำงานพร้อม ๆ กันหลายโปรแกรม แล้วมักจะลืมปิดมันเมื่อใช้เสร็จแล้ว JustCloseSomeTasks ก็คงเป็น software ที่เหมาะกับคุณ
สิ่งที่โปรแกรมนี้ทำคือ เชื่อมโยง task ต่าง ๆ เข้ากับเวลาหมดอายุการใช้งาน ซึ่งเมื่อเวลาหมดหรือ expired แล้ว software ตัวนี้ก็จะทำการปิดการใช้งานโปรแกรมนั้นๆ ให้ทันที ซึ่งเมื่อคุณใช้ JustCloseSomeTasks ไปซักพัก มันจะเรียนรู้พฤติกรรมของคุณและปรับเวลาหมดอายุ หรือ expiry time ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของคุณได้



5. Lacuna Launcher
(download
http://appsapps.info/lacunalauncher.php/)
โดยปกติแล้วเรามักจะใช้ application หรือโปรแกรมกลุ่มหนึ่งเป็นประจำ ในจุดนี้เอง Lacuna Launcher ทำให้คุณสามารถเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้ประจำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดย Lacuna Launcher จะทำให้รคุณสามารถเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ได้โดยการคลิ๊กที่ shortcut ตัวเดียวเท่านั้น
คุณสามารถใช้ Lacuna Launcher กำหนดกลุ่มไฟล์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ และสามารถตั้งค่า delay time และ pause time ได้ด้วย เพื่อไม่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานโหลดมากเกินไป แทนที่จะโหลดโปรแกรมขึ้นมาพร้อมๆ กัน delay time และ pause time จะทำให้การโหลด หรือเปิดโปรแกรมเกิดขึ้นทีละโปรแกรมเป็น step ตามที่ตั้งไว้
คุณสามารถกำหนดโปรแกรมต่างๆ ที่จะให้ Lacuna Launcher เปิดได้โดยไม่จำกัดจำนวน คุณสามารถระบุโปรแกรมที่ต้องการให้เปิดขึ้นมาเวลาที่คุณท่องเว็บ หรือเปิดไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่ต้องการเมื่อคุณทำการพิมพ์รายงาน
ในตอนเริ่มต้นของการใช้งานคุณอาจจะต้องเสียเวลาตั้งค่าต่าง ๆ ซักเล็กน้อย แต่หลักจากนั้นแล้ว คุณจะสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และเรียกโปรแกรมต่าง ๆ ได้ไวยิ่งขึ้น

ข้อมูลจาก...
http://www.bcoms.net/software/5program.asp

วันพุธ, กันยายน 02, 2552

การตรวจหาไวรัส

การสแกน
โปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้ิวิธีการสแกน (Scanning) เรียกว่า สแกนเนอร์ (Scanner) โดยจะมีการดึงเอาโปรแกรมบางส่วนของตัวไวรัสมาเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล ส่วนที่ดึงมานั้นเราเรียกว่า ไวรัสซิกเนเจอร์ (VirusSignature) และเมื่อสแกนเนอร์ถูกเรียกขึ้นมาทำงานก็จะเข้าตรวจหาไวรัสในหน่วยความทรงจำ บูตเซกเตอร์และไฟล์โดยใช้ไวรัสซิกเนเจอร์ที่มีอยู่
ข้อดีของวิธีการนี้ก็คือ เราสามารถตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่มาใหม่ได้ทันทีเลยว่าติดไวรัสหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสถูกเรียกขึ้นมาทำงานตั้งแต่เริ่มแรก
แต่วิธีนี้มีจุดอ่อนหลายข้อ คือ
1.ฐานข้อมูลที่เก็บไวรัสซิกเนเจอร์จะต้องทันสมัยอยู่เสมอ และครอบคลุมไวรัสทุกตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 2.เพราะสแกนเนอร์จะไม่สามารถตรวจจับไวรัสที่ยังไม่มีซิกเนเจอร์ของไวรัสนั้นเก็บอยู่ในฐานข้อมูลได้
3.ยากที่จะตรวจจับไวรัสประเภทโพลีมอร์ฟิก เนื่องจากไวรัสประเภทนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้
4.จึงทำให้ไวรัสซิกเนเจอร์ที่ใช้สามารถนำมาตรวจสอบได้ก่อนที่ไวรัสจะ้เปลี่ยนตัวเองเท่านั้น
5.ถ้ามีไวรัสประเภทสทีลต์ไวรัส ติดอยู่ในเครื่องตัวสแกนเนอร์อาจจะไม่สามารถตรวจหาไวรัสนี้ได้
6.ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและเทคนิคที่ใช้ของตัวไวรัสและของตัวสแกนเนอร์เองว่าใครเก่งกว่า
7.เนื่องจากไวรัสมีตัวใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอๆ ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องหาสแกนเนอร์ตัวที่ใหม่ที่สุดมาใช้
8.มีไวรัสบางตัวจะเข้าไปติดในโปรแกรมทันทีที่โปรแกรมนั้นถูกอ่าน และถ้าสมมติ
9.ว่าสแกนเนอร์ที่ใช้ไม่สามารถตรวจจับได้ และถ้าเครื่องมีไวรัสนี้ติดอยู่ เมื่อมีการ
10.เรียกสแกนเนอร์ขึ้นมาทำงาน สแกนเนอร์จะเข้าไปอ่านโปรแกรมทีละโปรแกรมเพื่อตรวจสอบ
11.ผลก็คือจะทำให้ไวรัสตัวนี้เข้าไปติดอยู่ในโปรแกรมทุกตัวที่ถูกสแกนเนอร์นั้นอ่านได้
12.สแกนเนอร์รายงานผิดพลาดได้ คือ ไวรัสซิกเนเจอร์ที่ใช้บังเอิญไปตรงกับที่มี
13.อยู่ในโปรแกรมธรรมดาที่ไม่ได้ติดไวรัส ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ไวรัสซิกเนเจอร์ที่ใช้มีขนาดสั้นไป
14.จะทำให้โปรแกรมดังกล่าวใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
การตรวจการเปลี่ยนแปลง
การตรวจการเปลี่ยนแปลง คือ การหาค่าพิเศษอย่างหนึ่งที่เรียกว่า เช็คซัม (Checksum) ซึ่งเกิดจากการนำเอาชุดคำสั่งและข้อมูลที่อยู่ในโปรแกรมมาคำนวณ หรืออาจใช้ข้อมูลอื่นๆ ของไฟล์ ได้แก่ แอตริบิวต์ วันและเวลา เข้ามารวมในการคำนวณด้วย เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งหรือข้อมูลที่อยู่ในโปรแกรม จะถูกแทนด้วยรหัสเลขฐานสอง เราจึงสามารถนำเอาตัวเลขเหล่านี้มาผ่านขั้นตอนการคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้ ซึ่งวิธีการคำนวณเพื่อหาค่าเช็คซัมนี้มีหลายแบบ และมีระดับการตรวจสอบแตกต่างกันออกไป เมื่อตัวโปรแกรมภายในเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าไวรัสนั้นจะใช้วิธีการแทรกหรือเขียนทับก็ตาม เลขที่ได้จากการคำนวณครั้งใหมจะเปลี่ยนไปจากที่คำนวณได้ก่อนหน้านี้ ข้อดีของการตรวจการเปลี่ยนแปลงก็คือ สามารถตรวจจับไวรัสใหม่ๆ ได้ และยังมีความสามารถในการตรวจจับไวรัสประเภทโพลีมอร์ฟิกไวรัสได้อีกด้วย แต่ก็ยังยากสำหรับสทีลต์ไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดของโปรแกรมตรวจหาไวรัสเองด้วยว่า จะสามารถถูกหลอกโดยไวรัสประเภทนี้ได้หรือไม่ และมีวิธีการตรวจการเปลี่ยนแปลงนี้จะตรวจจับไวรัสได้ก็ต่อเมื่อไวรัสได้เข้าไปติดอยู่ในเครื่องแล้วเท่านั้น และค่อนข้างเสี่ยงในกรณีที่เริ่มมีการคำนวณหาค่าเช็คซัมเป็นครั้งแรก เครื่องที่ใช้ต้องแน่ใจว่าบริสุทธิ์พอ คือต้องไม่มีโปรแกรมใดๆ ติดไวรัส มิฉะนั้นค่าที่หาได้จากการคำนวณที่รวมตัวไวรัสเข้าไปด้วย ซึ่งจะลำบากภายหลังในการที่จะตรวจหาไวรัสตัวนี้ต่อไป
การเฝ้าดู
เพื่อที่จะให้โปรแกรมตรวจจับไวรัสสามารถเฝ้าดูการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลานั้น จึงได้มีโปรแกรมตรวจจับไวรัสที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นโปรแกรมแบบเรซิเดนท์หรือ ดีไวซ์ไดรเวอร์ โดยเทคนิคของการเฝ้าดูนั้นอาจใช้วิธีการสแกนหรือตรวจการเปลี่ยนแปลง หรือสองแบบรวมกันก็ได้ การทำงานโดยทั่วไป ก็คือ เมื่อซอฟแวร์ตรวจจับไวรัสที่ใช้วิธีนี้ถูกเรียกขึ้นมาทำงานก็จะเข้าไปตรวจในหน่วยความจำของเครื่องก่อนว่ามีไวรัสติดอยู่หรือไม่โดยใช้ไวรัสซิกเนเจอร์ที่มีอยู่ในฐานข้อมูล จากนั้นจึงค่อยนำตัวเองเข้าไปฝังอยู่ในหน่วยความจำ และต่อไปถ้ามีการเรียกโปรแกรมใดขึ้นมาใช้งาน โปรแกรมเฝ้าดูนี้ก็จะเข้าไปตรวจโปรแกรมนั้นก่อนโดยใช้เทคนิคการสแกนหรือตรวจการเปลี่ยนแปลงเพื่อหาไวรัส ถ้าไม่มีปัญหาก็จะอนุญาตให้โปรแกรมนั้นขึ้นมาทำงานได้ นอกจากนี้โปรแกรมตรวจจับไวรัสบางตัวยังสามารถตรวจสอบขณะที่มีการคัดลอกไฟล์ได้อีกด้วย ข้อดีของวิธีนี้ คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมใดขึ้นมา โปรแกรมนั้นจะถูกตรวจสอบก่อนทุกครั้งโดยอัตโนมัติ ซึ่งถ้าเป็นการใช้สแกนเนอร์จะสามารถทราบได้ว่าโปรแกรมใดติดไวรัสอยู่ ก็ต่อเมื่อทำการเรียกสแกนเนอร์นั้นขึ้นมาทำงานก่อนเท่านั้น ข้อเสียของโปรแกรมตรวจจับไวรัสแบบเฝ้าดูก็คือ จะมีเวลาที่เสียไปสำหรับการตรวจหาไวรัสก่อนทุกครั้ง และเนื่องจากเป็นโปรแกรมแบบเรซิเดนท์หรือดีไวซ์ไดรเวอร์ จึงจำเป็นจะต้องใช้หน่วยความจำส่วนหนึ่งของเครื่องตลอดเวลาเพื่อทำงาน ทำให้หน่วยความจำในเครื่องเหลือน้อยลง และเช่นเดียวกับสแกนเนอร์ ก็คือ จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงฐานข้อมูลของไวรัสซิกเนเจอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

วันอังคาร, กันยายน 01, 2552

จับ Word ใส่ PowerPoint อย่างมือโปรฯ

สำหรับการแทรกเอกสาร Word เข้าไปในสไลด์ PowerPoint ที่ถูกต้องมีขั้นตอน ดังนี้
1.เปิดหน้าสไลด์ว่างๆ ในโปรแกรม PowerPoint
2.เลือกเมนู Insert คลิ้กเลือก Object
3.คลิ้กเลือก Create from file คลิ้กปุ่ม Browse เพื่อเข้าไปยังที่เก็บไฟล์เอกสารที่ต้องการ คลิ้ก OK





4.กรณีต้องการแทรกเอกสาร Word ที่จะสร้างขึ้นใหม่เข้าไปในสไลด์ให้ คลิ้ก Creat new ในสกอลบ๊อกซ์ Object Type เลือกไฮไลต์เอกสาร Microsoft Word คลิ้กปุ่ม OK






5. เอกสาร Word ที่เลือกจะปรากฎในหน้าสไลด์ว่างด้วยรูปแบบ (format) ที่ถูกต้องดังรูป




คลิ้กบนพื้นที่ว่างของสไลด์ เพื่อฝัง (embed) ออบเจกต์ของเอกสาร Word เข้าไปในสไลด์ ส่วนการแก้ไขเอกสารในหน้าสไลด์ สามารถทำได้โดยคลิ้กขวาบนเอกสารในสไลด์ จากนั้น เลือก Document Object และ Edit ตามลำดับ
นอกจากคุณจะสามารถแทรกเอกสาร Word เข้าไปในสไลด์ด้วยวิธีนี้ได้แล้ว คุณยังสามารถแีทรกเวิร์กชีตของ Excel, ไฟล์รูปภาพจาก Adobe Photoshop หรือแม้แต่สไลด์ของ PowerPoint เองได้อีกด้วย

วันจันทร์, สิงหาคม 31, 2552

ลบรายชื่อเว็บที่อยู่ใน Address bar ออกได้อย่างไร

ในการลบรายชื่อเว็บไซต์ที่อยู่ในส่วนของ Address bar นั้นสามารถทำได้ 2 แบบคือลบทีเดียวทั้งหมดกับลบเฉพาะบางรายชื่อเท่านั้นซึ่งแต่ละแบบมีขั้นตอนดังนี้
* ลบทีเดียวทั้งหมด
1. เปิดโปรแกรม IE ขี้นมา จากนั้นคลิกเมนู Tools > Internet Option..
2. แล้วคลิกปุ่ม Clear History
3. จากนั้รคลิกปุ่ม OK เท่านี้รายชื่อเว็บไซต์ ต่าง ๆ ก็จะหายไปหมด
* ลบเฉพาะบางรายชื่อ
1. คลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run
2. พิมพ์คำสั่ง regedit
3. แล้วคลิก OK
4. ขั้นตอนต่อมาให้เข้าไปที่ HKEY_CURRENT_USERSoftware MicrosoftInternet ExplorerTypedURLs
5. คลิกขวารายชื่อเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการ แล้วเลือกคำสั่ง Delete
6. คลิกปุ่ม Yes เพื่อยีนยัน ทำเช่นนี้จนกว่าจะลบเสร็จเรียบร้อย
7. จากนั้นให้ดูว่าหมายเลขอะไรบ้างที่ลบไป เช่น ลบเบอร์ 10 ไป ก็ให้คลิกขวาที่ URL ตัวสุดท้าย แล้วเลือกคำสั่ง Rename
8. พิมพ์ชื่อเป็น url10 แล้วกดปุ่ม Enter
9. หากมีตัวอื่นก็ให้เปลี่ยนชื่อ Url ตัวสุดท้ายแบเดิมอีก ทำอย่างนี้จนหมด แล้วคลิกปุ่มกากบาทเพื่อปิดหน้าต่างนี้ เท่านี้ก็จะสามารถลบรายชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการ
ได้แล้ว
* หากไม่สร้างหมายเลขที่ลบออกไปใหม่ มันจะข้ามไม่แสดงรายชื่อเว็บไซต์ตั้งแต่หมายเลข 10 ลงไปทั้งหมดคือจะแสดงเฉพาะหมายเลข 1-9 เท่านั้น .....

วันศุกร์, สิงหาคม 28, 2552

patch/Crack / Key Gen / Serial No.คืออะไร

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 27, 2552

รู้จักกับ Notebook


Note Book - คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา
คอมพิวเตอร์พกพา (Notebook) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้ายประเภทของคอมพิวเตอร์พกพา
1บุ๊ค (N. โน๊ตotebook) - เครื่องโน๊ตบุ๊ค มีจะน้ำหนักประมา2.7 - 3.6 กิโลกรัม
2. สับโน๊ตบุ๊ค (Sub-Notebook) - มีน้ำหนัประมาณ 1 - 2.7 กิโลกรัม ความสามารถจะต่ำกว่าโน๊ตบุ๊ค3. ปาล์มทอป (Palmtop) - มีขนาดใกล้เคียงกับม้วนวีดีโอเทป ใช้สำหรังาน นัดหมาย บันทึกนามบัตร
สิ่งสำคัญของคอมพิวเตอร์พกพาคือ แบตเตอร์รี่ ซึ่งทำให้สามารถใช้งานในที่ใด ๆ ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว แบตเตอร์รี่จะใช้ได้นานเพียง 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการชาร์ฟไฟอยู่เสมอ
ประเภทของแบตเตอร์รี่
1. นิกเกิลแคดเมียม (NiCd) - มีอายุการใช้งาน 1 - 2 ชั่วโมง ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว และการชาร์จไฟ ต้องรอให้แบตหมดก่อน และโดยเฉพาะสารแคดเมียมในแบตเตอร์รี่ยังมีอันตรายอีกด้วย2. นิกเกิลไฮตราย (NiMH) - มีอายุการใช้งาน 2- 3 ชั่วโมง แบตฯ สามารถอัดไฟได้ตลอดเวลาตามต้องการ3. ลิเธียมไออน - มีอายุการใช้งาน 4 - 5 ชั่วโมง แบตฯมีอายุการใช้งานนานที่สุดและราคาก็แพงด้วย
Docking Station ?
คืออุปกรณ์ที่ช่วยในการเพิ่มหรือขยายความสามารถให้คอมพิวเตอร์แบบพกพา สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Docking Station มีอุปกรณ์ Monitor, CD-Rom, Tape Drive, Network หรือ Modem ต่ออยู่ เพียงเราเสียบ Notebook เข้าไปเท่านั้น อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะสามารถใช้งานได้
ประเภทของจอภาพ คอมพิวเตอร์พกพาจะใช้จอภาพ LCD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับนาฬิกาดิจิตอล
1. จอโมโนโครมแบบ Passive Matrix - จอภาพนี้แสดงได้เพียงสีโทนขาวดำเท่านั้น2. จอสีแบบ Passtive Matrix - ราคาจะต่ำ และถ้ามองผิดมุมจะมองภาพไม่เห็นด้วย จอภาพชนิดนี้ยังแบ่งได้อีก 2 แบบคือ Dual-Scan Passive Matrix (ดีกว่า) และ Single-Scan Passive Matrix จอภาพ Passive Matrix เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า STN (Super Twist Nematic)3. จอสีแบบ Active Matrix - จอภาพนี้จะให้ความสว่างและสีที่ดีกว่า มุมมองก็กว้างกว่าด้วย เหมาะสำหรับงานพรีเซ็นเทชั่น จอภพาแบบนี้ บางครั้งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า TFT (Thin Film Transissor)
การ์ดขยายที่ใช้สำหรับคอมฯแบบพกพา เพื่อเพิ่มความสามารถ เรียกว่า PCMCIA (Personal Computer Memory Card Inernational Association) การ์ด PCMCIA นี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับบัตรเครดิต แต่หนากว่า การใช้งานส่วนใหญ่ จะเสียบที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
1. PCMCIA Type I - หนาประมาณ 3.3 มิลลิเมตร ใช้สำหรับเพิ่มหน่วยความจำของเครื่อง2. PCMCIA Type II - หนาประมาณ 5.0 มิลลิเมตร ใช้เป็นการ์ดโมเด็ม การ์ดเครือข่าย หรือการ์ดเสียง3. PCMCIA Type III - หนาประมาณ 10.5 มิลลิเมตร ใช้เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ฮาร์ดดิกส์แบบเคลื่อนย้าย

วันพุธ, สิงหาคม 26, 2552

วิธีแก้ไวรัสscvhost.exe

svchost.exe เป็น service (Generic Host Process for Win32 Services)ที่ใช้ในการโหลดไฟล์ .DLL การเรียกใช้ network การที่จะรู้ว่า service svchost ทำงานกับโปรแกรมอะไรอยู่นั้นทำได้ดังนี้ (winXP)
1. เปิด Task Manager ขึ้นมา เลือกที่
tap process >> view >> Select Columns.. แล้วเลือกที่ PID แล้วจำหมายเลข PID ของ svchost

2. จากนั้นก็เปิด Command Prompt ขึ้นมาแล้วพิมพ์ tasklist /svc ก็มาดูที่ PID แล้วดูรายละเอียดจะรู้ว่า svchost ทำงานร่วมกับโปรแกรมใด ถ้าเอามันออกตอน start up ได้ก็ค่อยเอาออก
Svchost.exe ของแท้เป็น Service Host – Generic Host Process for Win32 Servicesและที่อยู่ของไฟล์คือ C:\WinNT\System32\Svchost.exe หรือC:\Windows\System32\Svchost.exe.ส่วนไวรัสที่พยายามใช้ชื่อให้ใกล้เคียงกัน เพื่อทำให้เราสับสน...มีตัวอย่างตามด้านล่าง

SCVHOST.exe คือ Gaobot viruses

Svch0st.exe คือ Backdoor.Graybird viruses.

Svchos1.exe คือ W32.HLLW.Gaobot.DK virus

Svchost32.exe คือ Backdoor.IRC.Zcrew, W32.HLLW.Deborms.C, W32.Mimail.J@mm, or the W32.Paylap.@mm

Svhost.exe คือ Backdoor.Socksbot, Bat.Boohoo.Worm, W32.Bolgi.Worm

svchost.exe จึงกลายเป็นที่หมายปองของไวรัสต่างๆ..ในการแพร่กระจายตัวเองเข้าไปควบคุมเจ้าไฟล์ตัวนี้

ตอนนี้มีไวรัสคอมตัวใหม่ระบาดมันมีชื่อว่า SCVHOST.exe
จะระบาดทาง handy drive และ การ์ดลีดเดอร์
อาการคือจะทำให้คอมอืดมากๆ ถ้าติดเข้าไปในเมม มันจะสร้างไฟร์ใหม่
โดยใช้ชื่อโฟร์เดอร์เดิมขนาดของไฟร์ 245 kb
อาการจะทำให้ฟังเพลง MP3player
และดูหนัง SmartMovie ได้แค่ 3-5 นาที มือถือจะปิดเครื่องเอง
ผมโดนมาแล้ว Format mmc ก้อไม่ได้ สแกนก้อไม่เจอ

วิธีแก้
http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?p=972375

วันจันทร์, สิงหาคม 24, 2552

คำแนะนำเพื่อความจำที่ดีขึ้น

1. หาเวลาที่เหมาะที่สุดกับการใช้ความคิดของเราในแต่ละช่วงวัน แต่ละคนแต่ละวัยจะมีช่วงทองให้กับการคิดไม่เหมือนกัน ว่ากันว่าคนมีอายุแล้วสมองจะเคลียร์ที่สุดก็เป็นช่วงเช้า พวกหนุ่มๆสามวๆนั้นกว่าจะมีสมาธิในการคิดได้ก็จะเป็นช่วงบ่าย ดูตัวเองว่าความคิดดีดีของเรานั้นมักจะมาในช่วงไหน แล้วเก็บช่วงนั้นไว้สำหรับงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์

2. หาความรู้อยู่เรื่อยๆ...รู้แบบกว้างๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกไปซะทุกอย่าง แต่ความรู้ที่สะสมมาจากทุกเรื่องจะช่วยต่อยอดกับข้อมูลใหม่ๆให้เข้าใจได้ง่ายๆขึ้น

3. "จดไว้ให้จำ" เครื่องช่วยจำที่ดีที่สุดก็คือจดทุกอย่างลงในกระดาษ เขียนไว้กันลืม สุภาษิตจีนบอกไว้ว่า ถึงแม้ว่าหยดหมึกที่จางที่สุดก็จะอยู่ได้นานกว่าความจำที่ว่าแม่นที่สุด

4. เพิ่มพลังกับกาแฟ..แต่แค่ถ้วยเดียวพอนะ ที่จะช่วยให้มีสมาธิดีขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเวลาเครียดๆละก็ห้ามเด็ดขาดเพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม

5. โยงเรื่องใหม่กับความจำเดิม ให้คิดซะว่าความคิดหรือความจำที่มีอยู่เดิมนั้นเหมือนกับตุ๊กตาที่ถูกแขวนไว้กลาง
อากาศ กำลังรอข้อมูลใหม่ๆเข้าไปปะติดปะต่อ อย่าปล่อยเรื่องใหม่ๆเข้าไปอย่างไม่มีจุดเชื่อมโยง เช่น ถ้าจะจำชื่อคน ก็ลองโยงความหมายหรือเสียงของชื่อนั้นเข้ากับสิ่งต่างๆที่เราคุ้นเคย


6. ฝึก..ฝึก..ฝึกจำอยู่บ่อยๆ ถึงอายุอ่อนกว่าแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยฝึกท่องจำเลย ความจำก็อาจจะสู้คนแก่ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อลองนึกดูสิว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนทำไมเราถึงไม่ลืมสูตรคูณ ที่เราท่องตั้งแต่ยังเด็กล่ะ

7. ควรให้เวลาสมองได้รับเรื่องตลกๆหรือได้คิดอะไรที่ไร้สาระบ้าง เป็นการให้ความคิดของเราได้พักผ่อน

8. รู้จักดัดแปลงความคิดสร้างสรรค์ มันมักจะเกิดขึ้นมาได้จากบางอย่างที่เราคุ้นเคยนั่นล่ะ จะเชื่อมั้ยล่ะ ถ้าบอกว่าวิธีเปิดฝากระป๋องแบบดึงขึ้นนั้นน่ะ ต้นตอมาจากการปลอกเปลือกกล้วยนั่นเอง

9. คบเพื่อนที่ฉลาด มีความคิดกว้างๆ..แล้วคำโบราณที่บอกว่าคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผลนั่นน่ะมันเป็นความจริง การที่เราได้อยู่ใกล้กับคนที่มีความรู้ เป็นคนฉลาดที่เปิดรับความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอนั้นจะช่วยให้เราได้คิดตาม และฝึกสมองอยู่บ่อยๆ

10. เลียนแบบลีโอนาโด..หมายถึง ลีโอนาโอ ดา วินซี มีวิธีมากมายที่ดาวินซีใช้สร้างสรรค์งานของเขาง่ายๆก็คือ
ลองเขียนภาพจากมือที่ไม่ได้ถนัด

11. เอาใจใส่ เคยมั้ยที่เวลาได้เจอใครๆกลับจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร ที่เป็นปัญหาอาจจะไม่ใช่เรื่องของความจำแต่เป็นเรื่องของการใส่ใจ ถ้าเราใส่ใจกับคนๆนั้น หรือสิ่งนั้น เราจะจำได้มากกว่าที่เป็น

12. ฟังเพลงโมสาร์ท ก่อนนอนเปิดงานของโมสาร์ทฟังซักหนึ่งรอบ จะช่วยเรื่องความจำดีขึ้นได้

13. ออกกำลังกาย เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนที่ไม่ใช่แค่ให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่หมายถึงสมองได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย

14. ลองทำสิ่งใหม่ๆจะได้มีแนวความคิดที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

15 ตัดเครื่องรบกวนสมาธิทั้งหมด ขึ้นป้าย Don't Disturb! ติดไว้ข้างตัว เวลาที่งานนั้นต้องใช้ความตั้งใจและมีสมาธิอย่างสูง และทางที่ดีดึงสายโทรศัพท์ออกไปไม่รับสายเข้าเลยดีกว่า

วันอังคาร, สิงหาคม 18, 2552

บทเทิดทูนความดีของพ่อ


บทเทิดทูนความดีของพ่อ
หากจะกล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อของแผ่นดินไทยนั้น คนไทยทุกคนต่างรู้ดีว่าสิ่งที่จะได้ยินคือ ความทุ่มเท เสียสละ อดทน ขยัน รอบรู้ในทุกๆด้านของพระองค์ พระองค์ทรงประทับอยู่ในใจของคนไทยทุกคน พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตให้กับชาวไทยทุกระดับชั้นมานานกว่า 80 ปีแล้ว
แต่อดีตถึงปัจจุบันพระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อประเทศไทยและชาวไทยทุกคน พระองค์บำเพ็ญตนตามที่ได้ตั้งประณิธานในวันที่ขึ้นครองราชย์ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อนประโยชน์และความสุขของมหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงเสียสละพระวรกาย เสียสละความสุขส่วนตัวทรงงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติและคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย ทรงดูแลทุกข์สุขของราษฎรทุกระดับชั้นด้วยความห่วงใย พระองค์ไม่เคยเกี่ยงศาสนา ฐานะ แม้แต่ในพื้นที่ที่ทุรกันดารเพียงใด พระองค์ก็ทรงเสด็จไปเยี่ยมเยียนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ภาพที่พระองค์ทรงประทับลงกับพื้นดิน พื้นโคลนเพื่อถามไถ่ทุกข์สุขของประชาชนเป็นภาพที่ชินตาของคนไทย แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความปลื้มปิติที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคน
พระองค์ทรงมีโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ ไม่ว่าในด้านการศึกษาที่ทรงมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ยากไร้ขาดโอกาสได้เล่าเรียน เสด็จประทานปริญญาบัตรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่บัณฑิตย์ ทรงแก้ปัญหาด้านการเกษตร เศรษฐกิจ แม้แต่ปัญหาความแตกแยกของคนในประเทศพระองค์ก็ทรงแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบเสมอมา พระองค์ทรงนำมาประเทศไทยให้พ้นวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ทรงประทานแนวทางในการดำเนินชีวิตอยู่อย่างมีความสุข โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น เช่น โครงการเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นที่ยอมรับของคนในประทศและชาวต่างชาติ พระองค์ทรงเป็นที่ยอมรับของนาๆประเทศจนได้รับยกย่องให้เป็นประมุขนักพัฒนาของชาวโลก ทุกความดีของพระองค์ทรงชี้ให้เห็นแล้วว่า พระองค์ไม่ได้เป็นแค่ผู้ปกครองประเทศเท่านั้นแต่พระองค์ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินพ่อของชาวไทยทุกคน ทุกความดีที่พระองค์ทรงทำเพื่อชาวไทยนั้นจัดอยู่ในใจของชาวไทยทุกคนไปตราบนานเท่านาน
กระผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ใต้ร่มโพธิสมภารของพระองค์ของปฎิญาณตนว่าจะทำตัวเป็นคนดีให้สมกับที่พระองค์ทรงสละความสุขเพื่อนเราชาวไทย และถึงเวลาแล้วที่เราชาวไทยทุกคนจะหันมารู้รักสามัคคีทำตัวเป็นคนดีเพื่อตอบแทนความดี ที่พ่อทำเพื่อชาวไทยตลอดมา

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 13, 2552

ส่วนประกอบภายในของเครื่องคอมพิวเตอร์

เมนบอร์ด (Mainboard) หมายถึง แผงวงจรหลัก ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย แต่ส่วนที่สำคัญคือ
• ชิปเซ็ต(Chipset) คอยทำหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพิวเตอร์
• บัส (Bus) ที่เป็นเส้นทางเดินของข้อมูล
• สล็อต(Slot) เป็นช่องที่ใช้เสียบการ์ดต่าง ๆ
• ซ็อคเก็ต (Socket) เป็นช่องที่ใช้ติดตั้งซีพียู
• ฯ ล ฯ
MainBoard_1.jpg

ซีพียู (CPU) เป็นส่วนที่เปรียบได้กับสมองของคอมพิวเตอร์ เป็นที่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในของคอมพิวเตอร์ เช่น เมนบอร์ด เพาเวอร์ซัพพลาย ตลอดจนการ์ดต่างๆ เป็นต้น

Cpu_1.jpg

แรม (RAM) เป็นหน่วยความจำหลัก ทำหน้าที่จดจำข้อมูลในขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์กำลังทำงาน แต่เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเหล่านั้นก็จะหายไป ดังนั้นหากมีงานใดที่สำคัญต้องการเก็บบันทึกไว้ใช้ในคราวต่อไป จะต้องจัดเก็บหรือบันทึกข้อมูลเหล่านั้น ไว้ใน หน่วยความจำรอง เช่น ฮาร์ดดิสก์ ฟลอปปี้ดิสก์ ซีดีรอม เป็นต้น

Ram.jpg

ฮาร์ดดิสก์ (Mouse) เป็นหน่วยความจำรอง ที่ใช้เก็บบันทึกข้อมูลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไฟล์งานที่ทำจากโปรแกรมต่าง ๆ ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพยนต์ ไฟล์เพลง MP3 เป็นต้น เนื่องจากมีความจุข้อมูล 40-80 กิกะไบต์ ซึ่งถือว่ามากกว่าสื่อเก็บข้อมูลชนิดอื่น ๆ
Hd.jpgHdd.jpg

ฟลอปปี้ดิสก์ (Mouse) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านและเก็บบันทึกข้อมูลขนาดเล็กที่อยู่ในแผ่นดิสก์ มีความจุข้อมูล 1.44 เมกะไบต์

Fdd.jpg

ซีดีรอม (Mouse) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านข้อมูลจากแผ่น ซีดีรอม ไม่ว่าจะเป็นแผ่นซีดีเพลง ซีดีภาพยนต์ ซีดีรูปภาพ ฯลฯ มีความจุข้อมูล 650 - 800 เมกะไบต์

Cd_Rom.jpg

วีจีเอ การ์ด (Mouse) หรือที่เรียกว่า การ์ดจอภาพ ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณภาพ card-vga.jpg

ซาวด์ การ์ด (Mouse) หรือที่เรียกว่า การ์ดเสียง ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณเสียง

Sound.jpg

"แม่" คือคนที่เราต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก

"แม่" คือคนที่เราต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก
เวลาไม่มีเงิน...........คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่ แต่พอมีเงิน.............คนแรกที่คิดถึงคือแฟน และเพื่อน อยากได้รถ.............คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อและ แม่ แต่พอมีรถ..............คนแรกที่จะไปรับคือแฟน และเพื่อน ร้านอาหารหรูๆ บรรยากาศคลาสิค.....มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน อาหารบนโต๊ะที่บ้าน.......................มีสำหรับพ่อและแม่ โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า.......มีไว้สำหรับแฟน และเพื่อน ทีวี และสวนหน้าบ้าน...........มีไว้สำหรับพ่อ และแม่ พ่อ และแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน..เพื่อความอยู่รอด ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเนต ก่อนนอน...เพื่อให้หลับฝันดี เวลาเรามีความสุข............มักจะมองหาแฟน และเพื่อน เวลาเรามีความทุกข์..........คนที่กังวล หดหู่ และเศร้าสลดใจ คือพ่อ และแม่ เวลาประสบความสำเร็จ........เรามักมองหาแฟน และเพื่อนเพื่อนัดฉลองและสังสรร.....แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่ .........แต่กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนัง เธค ผับ โต๊ะสนุ๊ก ฯลฯ .......พ่อและแม่ กำลังทำงาน หรือนอนหลับเก็บแรง ไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้น เพื่อแลกความสุขของลูก อยากให้ลูกเรียนสูงๆ เวลาแต่งงาน.......คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองมั่นคือพ่อและแม่ .........คนที่มีความสุขคือลูก พ่อ และแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์............เพื่อให้ลูกได้ดี แต่ลูกคิดว่าสิ่งที่ พ่อและแม่พูด.......เป็นแค่เรื่องไร้สาระ พ่อ และแม่...คือผู้ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยพันประการ เพื่อลูก แต่พอลูกมีปัญหา....มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่ หรืออยากตาย!!!! พ่อ และแม่คือผู้ที่ปกป้อง และยืนเคียงข้างลูก จวบจนชีวิตจะหาไม่ ลูกกำลังคิดถึงสิ่งใด...??? เดือนหน้า...เดือนแห่งผู้ที่เราเรียกว่า..."แม่"...มาตั้งแต่ยังแบเบาะ คำว่า "แม่" อาจเป็นคำแรกที่เราพูดได้ ตั้งแต่เกิด ผมเคยผ่าน เหตุการณ์ที่เขียนมา ที่เหลือคืองานแต่งงาน และก็คงจะไม่รบกวนท่านแล้ว... จนวันหนึ่งมานั่งทบทวน เหตุการณ์ต่างๆ........หลายๆเหตุการณ์...ผมนึกถึงแต่ตัวเอง และไม่มีอะไรมาเตือนสติ... ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ และตลอดไป "แม่" คือคนที่เราต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก

วันจันทร์, สิงหาคม 10, 2552

10 วิธีดูแลฮาร์ดดิสก์ให้ใช้ได้นานๆ

โปรแกรมที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำทำงานช้าลงหรือเปล่า? หรือพีซีอายุใช้งาน 4 เดือนของคุณมีอาการงอแงหรือไม่? ต่อไปนี้คือวิธีการแก้ปัญหาและเพิ่มความเร็วให้กับฮาร์ดดิสก์ตัวเก่งของคุณ

การเป็นเจ้าของและใช้งานฮาร์ดดิสก์โดยไม่เคยสแกนตรวจสอบ ก็เหมือนกับการมีรถยนต์คันหรูที่เอาแต่ขับอย่างเดียวไม่เคยเข้าศูนย์บริการ ซึ่งทิปต่อไปนี้สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องลงแรงมากนัก เพียงแค่เจียดเวลาสักนิดในการปฏิบัติตาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ฮาร์ดดิสก์ของคุณกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนใหม่และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

1. สแกนหาไวรัส

จัดเป็นข้อควรปฏิบัติที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ที่คุณควรให้ความสำคัญ และหมั่นทำเป็นประจำ เราคงไม่ต้องบอกคุณแล้วว่าไวรัสในปัจจุบันนั้นมีฤทธิ์เดชร้ายแรงแค่ไหน เอาเป็นว่าให้คุณลองนึกถึงตอนที่ไฟล์ข้อมูลสำคัญในฮาร์ดดิสก์ถูกทำลาย หรือเสียหายเพียงแค่เพราะว่าคุณไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสเอาไว้ในเครื่อง หรือใครที่ติดตั้งเอาไว้แล้วก็ไม่ควรชะล่าใจ ลองตรวจสอบวันที่ของฐานข้อมูลไวรัส (Virus Definition) ถ้าเก่าเกินกว่า 30 วันก็ควรรีบทำการอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน เพื่อการป้องกันที่เต็มประสิทธิภาพ จากนั้นทำการสแกนฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่ในระบบ ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้กำหนดตารางเวลาในการสแกนเป็นประจำทุกสัปดาห์

2. ปัดกวาดไฟล์หรือขยะที่ไม่ได้ใช้

ยิ่งใช้งานเครื่องมานานเท่าใด ไฟล์ข้อมูลเก่าๆ หรือขยะในเครื่องก็จะเพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลเก่า โปรแกรมเก่า ไฟล์ชั่วคราวที่หลงเหลือจากการท่องอินเทอร์เน็ต รวมทั้งไฟล์ที่ตกค้างจากการติดตั้งโปรแกรมในโฟลเดอร์เก็บไฟล์ชั่วคราวของวินโดวส์ ซึ่งวิธีการง่ายๆ ในการกำจัดไฟล์ขยะเหล่านี้ก็คือการใช้ยูทิลิตี้ Disk Cleanup ของวินโดวส์หรือจากออปชันทำความสะอาดไฟล์ในโปรแกรม IE โดยตรง (Tools -> Internet Options)

3. กำจัดขยะในซอกหลืบ

แม้ว่าคุณจะทำการลบไฟล์ขยะด้วยตัวเองไปแล้ว แต่ก็ยังอาจมีเศษขยะที่มองไม่เห็นตกค้างอยู่ในฮาร์ดดิสก์ของคุณอีกมากมาย โดยเศษขยะในที่นี้หมายรวมถึงบรรดาสปายแวร์ หรือแอดแวร์ต่างๆ ด้วย ซึ่งวิธีการตรวจสอบหาขยะเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษคือโปรแกรมอย่างเช่น Ad-aware หรือ Spybot Search & Destroy ที่หาดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคืออย่าลืมอัปเดตฐานข้อมูลให้กับโปรแกรมดังกล่าวก่อนเริ่มทำการสแกนระบบด้วย

4. หมั่นใช้สแกนดิสก์

เมื่อใดก็ตามที่พื้นที่เก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสก์เกิดบกพร่องเสียหาย เรามักจะใช้คำแทนจุดบกพร่องนั้นๆ ว่า “Bad Sector” ซึ่งมีความหมายว่าบริเวณพื้นผิวของจานแม่เหล็กเกิดความเสียหายจนไม่สามารถทำการอ่านข้อมูลได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นคือการใช้ยูทิลิตี้ Scandisk ของวินโดวส์ในการตรวจสอบหาจุดที่เกิด Bad Sector และย้ายข้อมูลที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ ไปยังเซกเตอร์อื่นๆ ที่ปกติ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของไฟล์ข้อมูล โดยในหน้าต่างยูทิลิตี้ Scandisk นั้นให้คุณเลือกออปชัน Scan for and attempt recovery of bad sectors ด้วยก่อนเริ่มทำการสแกน นอกจากนี้หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 98/Me แนะนำให้ปิดการทำงานของสกรีนเซฟเวอร์ก่อนเริ่ม Scandisk ด้วย

5. จัดเรียงข้อมูลให้เป็นระเบียบ

โปรแกรม Defragmenter ที่ไม่ต้องเสียเวลาหาให้ไกลเพราะมีอยู่ในวินโดวส์ทุกเวอร์ชันแล้วนั้น จะช่วยในการจัดเรียงข้อมูลที่ถูกเขียนลงฮาร์ดดิสก์อย่างสะเปะสะปะให้มีระเบียบ และเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้หัวอ่านฮาร์ดดิสก์ไม่ต้องทำงานหนัก และใช้เวลาในการอ่านข้อมูลสั้นลง และโปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าโปรแกรมจะจับไฟล์ในโฟลเดอร์ของคุณไปสลับสับเปลี่ยน หรือเรียงไว้ในโฟลเดอร์อื่นๆ จนหาไม่เจอ เพราะการ Defrag นั้นจะทำการจัดเรียงไฟล์ข้อมูลบนดิสก์เท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการเก็บไฟล์ในวินโดวส์แต่อย่างใด

6. เก็บทุกอย่างให้เข้าที่

ขั้นตอนนี้จะเรียกว่าเป็นวินัยส่วนตัวก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นลิ้นชักตู้เสื้อผ้าหรือฮาร์ดดิสก์ ก็ล้วนต้องการระบบระเบียบในการจัดเก็บที่ดีด้วยกันทั้งนั้น ฟังดูอาจเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่ถ้าฝึกให้เป็นนิสัยตั้งแต่แรกก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ส่วนใครที่ยังเก็บไฟล์ทุกชนิดทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสารเวิร์ด ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เพลง ฯลฯ ปนกันมั่วไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน เตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องปวดหัวในการค้นหาไฟล์เมื่อต้องการใช้งานให้ดี แต่ถ้าไม่อยาก ... ก็สละเวลาจัดการจัดไฟล์ลงโฟลเดอร์ให้เรียบร้อยเสียตั้งแต่วันนี้

7. แบ็กอัปข้อมูล

ไม่มีฮาร์ดดิสก์รุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่จะมีอายุยืนยาวอยู่กับคุณไปตลอดกาล แต่ถึงแม้ในที่สุดฮาร์ดดิสก์ของคุณจะหมดอายุขัย ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลทั้งหมดที่เก็บอยู่ในนั้นจะสูญหายไปด้วย เพียงแต่สิ่งที่คุณควรต้องหมั่นทำเป็นกิจวัตร ก็คือการแบ็กอัปไฟล์ข้อมูลสำคัญๆ เก็บไว้ในฟล๊อบปี้ดิสก์ แผ่นซีดี ดีวีดี หรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ตัวที่ใช้งานอยู่ หรือถ้าที่กล่าวมานั้นมันยุ่งยากหรือทำให้คุณลำบากเกินไป แนะนำให้ใช้ทัมป์ไดรฟ์ที่ปัจจุบันมีราคาแสนถูก และถ้าไม่ลำบากเงินในกระเป๋าจนเกินไปเลือกรุ่นที่จุ 128MB ขึ้นไปจะดีมาก

8. เทขยะอย่าให้เหลือไฟล์ตกค้าง

เมื่อคุณกดปุ่ม Delete เพื่อลบไฟล์ ซึ่งในทางปฏิบัติดูเหมือนว่าไฟล์ข้อมูลของคุณจะถูกลบออกไป แต่ในทางทฤษฎีนั้น ไฟล์ของคุณจะยังไม่ถูกลบออกไปจริงๆ เพียงแต่วินโดวส์จะทำเครื่องหมายไว้ในพื้นที่ส่วนนั้นๆ ว่าเป็นที่ว่าง และเมื่อใดที่มีการเขียนไฟล์ข้อมูลก็สามารถเขียนทับตำแหน่งนั้นๆ ได้ นอกจากนี้วินโดวส์จะนำไฟล์ที่คุณลบไปใส่ไว้ในถังขยะ (Recycle Bin) เผื่อกรณีที่คุณเกิดเปลี่ยนใจหรือตัดสินใจพลาด หากใครช่างสังเกตจะพบว่าแม้จะลบไฟล์ข้อมูลไปแล้วแต่พื้นที่ว่างในอาร์ดดิสก์นั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ก็เพราะข้อมูลนั้นๆ ยังนอนรอชะตากรรมอยู่ในถังขยะ (Recycle Bin) นั่นเอง ดังนั้นหากคุณมั่นใจว่าไม่ใช้งานแล้ว หรือไม่ต้องการให้ใครมาแอบคุ้ยถังขยะเอาข้อมูลส่วนตัวของคุณไป แนะให้คลิกขวาที่ไอคอน Recycle Bin แล้วเลือกคำสั่ง Empty Recycle Bin เพื่อกำจัดขยะในถังให้สิ้นซาก

9. แบ่งพาร์ทิชันเพื่อเก็บข้อมูล

ฮาร์ดดิสก์โดยทั่วไปที่ออกมาจากโรงงานนั้น จะไม่มีการแบ่งพาร์ทิชันเอาไว้ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือซื้อ 80GB ก็จะได้ไดรฟ์ C: ความจุ 80GB มาใช้งาน แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำให้คุณทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ออกเป็นส่วนๆ หรือที่เรียกว่าการแบ่งพาร์ทิชันนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ 80GB นำมาแบ่งเป็น 2 พาร์ทิชัน พาร์ทิชันละ 40GB ซึ่งคุณก็จะได้ไดรฟ์มาใช้งาน 2 ไดรฟ์คือไดรฟ์ C: และไดรฟ์ D: ซึ่งการแบ่งพาร์ทิชันนอกจากจะช่วยลดภาระของหัวอ่านและเพิ่มความเร็วในการทำงานของฮาร์ดดิสก์แล้ว คุณยังสามารถแยกไฟล์สำคัญๆ มาเก็บไว้ในไดรฟ์แยกต่างหากจากไดรฟ์ที่ติดตั้งวินโดวส์ ซึ่งอาจโดนไวรัสเล่นงานจนเสียหายได้อีกด้วย ซึ่งการแบ่งพาร์ทิชันนั้นคุณสามารถทำได้ในขณะที่ติดตั้ง Windows XP เลย แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไร เพราะปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับการนี้มากมาย ซึ่งที่นิยมใช้กันมากที่สุดได้แก่โปรแกรม Partition Magic

10. เลือกความเร็วให้เหมาะกับงาน

วิธีการที่ผ่านมานั้นสามารถช่วยให้ฮาร์ดดิสก์ของคุณสามารถทำงานได้เร็วขึ้นได้อีกเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี หากคุณกำลังมองหาหรือตัดสินใจซื้อฮาร์ดดิสก์ใหม่ แนะนำให้พิจารณาเลือกรุ่นความเร็วที่เหมาะสมกับลักษณะงานที่คุณต้องการใช้งาน เช่น เลือกรุ่นที่มีความเร็วในการหมุนจานแม่เหล็ก 5,400 RPM (รอบ/นาที) ที่มีราคาถูกถ้าคุณใช้เพียงโปรแกรมทั่วๆ ไปเช่น เล่นอินเทอร์เน็ต รับ-ส่งอีเมล หรือพิมพ์งานด้วยโปรแกรมเวิร์ด หรือถ้างานของคุณเกี่ยวกับการตกแต่งภาพถ่าย เล่นเกม
ก็อาจเลือกซื้อรุ่น 7200 RPM หรืออาจจะเป็น 10,000 RPM เลยก็ได้หากทำงานประเภทตัดต่อวิดีโอเป็นหลัก ซึ่งฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วในการหมุนจานแม่เหล็กสูงและมีขนาดของแคชภายในมาก
จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานให้กับคุณมากยิ่งขึ้น

วันศุกร์, สิงหาคม 07, 2552

G o o g l e ค ือ อ ะ ไ ร

เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล
เว็บไซต์ Google แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้คือ
เว็บ (Web) เป็นการค้นหาข้อมูลในรูปแบบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการแสดงผลจะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำที่เป็น Keyword อยู่ภายเว็บไซต์นั้น
รูปภาพ (Images) เป็นการค้นหารูปภาพจากการแปลคำ Keyword
กลุ่มข่าว (News) เป็นการค้นหาข้อมูลที่เป็นเนื้อหาที่อยู่ในข่าว ซึ่งมีการระบุชื่อผู้เขียนข่าว, หัวข้อข่าว, วันที่และเวลาที่โพสต์ข่าว
สารบบเว็บ (Web Directory) Google มีการจัดประเภทของเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งเราสามารถค้นหาเว็บในเรื่องที่ต้องการตามหมวดหมู่ที่มีอยู่แล้วได้เลย
วิธีการใช้งาน Google ค้นหาข้อมูลแบบติดจรวด
การค้นหาโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำ Keyword เป็นเครื่องมือในการนำทางการค้นหาอย่างเดียว แต่ถ้าเรารู้จักใช้เครื่องหมายบางตัวร่วมด้วย ก็จะทำให้ขอบเขตการค้นหาของ Google แคบลง ทำให้เราได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น เครื่องหมายที่สามารถนำมาช่วยในการค้นหาได้ มีดังนี้
การค้นหาด้วยเครื่องหมายบวก (+) เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นตัวเชื่อม เพราะโดยหลักการทำงานของ Google แล้ว Google จะไม่ค้นหาคำประเภทตัวเชื่อม เช่น at, with, on, what, when, where, how, the, to, of ถึงแม้ว่าเราจะมีการระบุเหล่านี้ลงใน Keyword ด้วยก็ตาม
ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ Google ทำการค้นหาคำเหล่านี้ด้วย เนื่องจากเป็นคำสำคัญของประโยคที่เราต้องการ สามารถใช้เครื่องหมาย + ช่วยได้ โดยมีเงื่อนไข ว่า ก่อนหน้าเครื่องหมาย + ต้องมีการเว้นวรรค 1 เคาะด้วย เช่น ถ้าต้องการค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเกมส์ที่มีชื่อว่า Age of Empire ถ้าเราพิมพ์ Keyword ...Age of Empire… Google จะทำการค้นหาแยกคำโดยไม่สนใจ of คืออาจจะค้นหา Age หรือ Empire แค่ตัวเดียว แต่ถ้าเราระบุว่า Age +of Empire Google จะทำการค้นหาทั้งคำว่า Age, of และ Empire เป็นต้น
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (+)
การค้นหาด้วยเครื่องหมายลบ ( - ) จะช่วยให้เราสามารถตัดเรื่องที่เราไม่ต้องการ หรือไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่ต้องการ การล่องแก่งที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดตาก ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง -ตาก (เช่นเดียวกับเครื่องหมาย + ต้องเว้นวรรคก่อนหน้าเครื่องหมายด้วย) Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่มีจังหวัดตากเข้ามาเกี่ยวข้อง
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (-)
การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...") เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นประโยควลี ที่เราต้องการให้มันแสดงผลทุกคำในประโยค โดยไม่แยกคำ เช่น ถ้าเราต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า "If I Let You Go" Google จะทำการค้นหาประโยค "If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข ("...")
การค้นหาด้วยคำว่า OR เป็นการสั่งให้ Google ค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง ทั้งในจังหวัดตาก และปราจีนบุรี ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง ตาก OR ปราจีนบุรี Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่งทั้งในจังหวัดตาก และกาญจนบุร
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (OR)
ตัวอย่างการใช้งาน แบบที่ 1
ตัวอย่างการใช้งาน แบบที่ 2
ภาพตัวอย่างวิธีการใช้งาน Google ของผู้เริ่มต้น
เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล
เว็บไซต์ Google แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้คือ
เว็บ (Web) เป็นการค้นหาข้อมูลในรูปแบบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการแสดงผลจะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำที่เป็น Keyword อยู่ภายเว็บไซต์นั้น
รูปภาพ (Images) เป็นการค้นหารูปภาพจากการแปลคำ Keyword
กลุ่มข่าว (News) เป็นการค้นหาข้อมูลที่เป็นเนื้อหาที่อยู่ในข่าว ซึ่งมีการระบุชื่อผู้เขียนข่าว, หัวข้อข่าว, วันที่และเวลาที่โพสต์ข่าว
สารบบเว็บ (Web Directory) Google มีการจัดประเภทของเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งเราสามารถค้นหาเว็บในเรื่องที่ต้องการตามหมวดหมู่ที่มีอยู่แล้วได้เลย
วิธีการใช้งาน Google ค้นหาข้อมูลแบบติดจรวด
การค้นหาโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำ Keyword เป็นเครื่องมือในการนำทางการค้นหาอย่างเดียว แต่ถ้าเรารู้จักใช้เครื่องหมายบางตัวร่วมด้วย ก็จะทำให้ขอบเขตการค้นหาของ Google แคบลง ทำให้เราได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น เครื่องหมายที่สามารถนำมาช่วยในการค้นหาได้ มีดังนี้
การค้นหาด้วยเครื่องหมายบวก (+) เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นตัวเชื่อม เพราะโดยหลักการทำงานของ Google แล้ว Google จะไม่ค้นหาคำประเภทตัวเชื่อม เช่น at, with, on, what, when, where, how, the, to, of ถึงแม้ว่าเราจะมีการระบุเหล่านี้ลงใน Keyword ด้วยก็ตาม
ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ Google ทำการค้นหาคำเหล่านี้ด้วย เนื่องจากเป็นคำสำคัญของประโยคที่เราต้องการ สามารถใช้เครื่องหมาย + ช่วยได้ โดยมีเงื่อนไข ว่า ก่อนหน้าเครื่องหมาย + ต้องมีการเว้นวรรค 1 เคาะด้วย เช่น ถ้าต้องการค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเกมส์ที่มีชื่อว่า Age of Empire ถ้าเราพิมพ์ Keyword ...Age of Empire… Google จะทำการค้นหาแยกคำโดยไม่สนใจ of คืออาจจะค้นหา Age หรือ Empire แค่ตัวเดียว แต่ถ้าเราระบุว่า Age +of Empire Google จะทำการค้นหาทั้งคำว่า Age, of และ Empire เป็นต้น
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (+)
การค้นหาด้วยเครื่องหมายลบ ( - ) จะช่วยให้เราสามารถตัดเรื่องที่เราไม่ต้องการ หรือไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่ต้องการ การล่องแก่งที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดตาก ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง -ตาก (เช่นเดียวกับเครื่องหมาย + ต้องเว้นวรรคก่อนหน้าเครื่องหมายด้วย) Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่มีจังหวัดตากเข้ามาเกี่ยวข้อง
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (-)
การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...") เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นประโยควลี ที่เราต้องการให้มันแสดงผลทุกคำในประโยค โดยไม่แยกคำ เช่น ถ้าเราต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า "If I Let You Go" Google จะทำการค้นหาประโยค "If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข ("...")
การค้นหาด้วยคำว่า OR เป็นการสั่งให้ Google ค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง ทั้งในจังหวัดตาก และปราจีนบุรี ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง ตาก OR ปราจีนบุรี Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่งทั้งในจังหวัดตาก และกาญจนบุร
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (OR)
ตัวอย่างการใช้งาน แบบที่ 1
ตัวอย่างการใช้งาน แบบที่ 2
ภาพตัวอย่างวิธีการใช้งาน Google ของผู้เริ่มต้น

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 06, 2552

ลบโปรแกรมออกจาก StartUp

ลบโปรแกรมออกจาก StartUp

โปรแกรมที่ติดตั้งใน Windows บางโปรแกรมจะอยู่ที่ StartUp เวลาบูทเครื่องจะใช้เวลาในการอ่านนาน เราสามารถลบออกได้ โดยมี 2 วิธีคือ


1. คลิกที่ My computer เลือก drive : C จากนั้นเลือก
Windows > Start Menu > Programs > StartUp ลบไฟล์ที่อยู่ใน StartUp ออกทั้งหมด
2. เปิดโปรแกรม Registry Editor โดยคลิกที่ Start > Run พิมพ์ regedit แล้วกดปุ่ม "OK"
- ค้นหาตำแหน่งของ Registry ทางด้านซ้ายมือดังนี้

HKEY_LOCAL_MACHINE/Software/Microsoft/Windows/CurrentVersion/Run

เลือกโปรแกรมที่ต้องการลบ โดยคลิกขวาที่โปรแกรม แล้วกดปุ่ม Delete

วันพุธ, สิงหาคม 05, 2552

HTML คืออะไร


HTML คืออะไร

HTML (HyperText Markup Language) เป็นภาษาหลักของเวิร์ลไวด์เว็บ (WWW เป็นบริการหนึ่งที่ใช้ในอินเตอร์เน็ต) ปัจจุบันมาตรฐาน HTML ถูกดูแลภายใต้องค์กร W3C (http://www.w3c.org) ซึ่งมาตรฐานเวอร์ชั่นล่าสุดคือ HTML 4.01 (http://www.w3.org/TR/html4) แต่เดิม HTML ถูกใช้สำหรับสร้างทุกส่วนประกอบของเว็บเพจ ตั้งแต่การกำหนดสี สร้างเฟรม สร้างตาราง สร้างฟอร์ม กำหนดขนาดอักษร ฯลฯ แต่ปัจจุบันมาตรฐาน HTML ถูกปรับแต่งใหม่ให้ทำหน้าที่อย่างจำกัดมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเฉพาะการกำหนดโครงสร้างของเว็บเพจเท่านั้น เช่น การกำหนดส่วนหัว HEAD และ BODY หรือ การสร้างตัวเชื่อม (นิยมเรียกกันว่าลิงค์) เป็นต้น ส่วนหน้าที่อื่นๆ ได้ถูกโอนไปเป็นมาตรฐานหรือภาษาตัวใหม่แทน เช่น CSS และ XForms


คำสั่ง HTML แต่ละตัวนิยมเรียกกันว่า "แท็ก" ซึ่งแท็กทุกตัวจะมีเครื่องหมาย <> ปิดหัวท้าย ตัวอย่างเช่น
,

, ฯลฯ ลักษณะการทำงานของคำสั่ง HTML ส่วนใหญ่จะต้องมีการกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดลงท้าย เช่น หากต้องการทำให้อักษรแสดงผลเป็นตัวหนาเราต้องใช้คำสั่ง แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการทำให้เป็นตัวหนา จากนั้นปิดคำสั่งด้วย เช่น สยามไอที Siam-iT เว็บไซต์ เป็นต้น ปัจจุบันคำสั่ง HTML มีอยู่เป็นร้อยๆ คำสั่ง แต่บราวเซอร์หลักอย่างเน็ตสเคปและอินเตอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ยังไม่สามารถแสดงคำสั่งได้ทั้งหมด นอกจากนี้ในบางคำสั่งบราวเซอร์ทั้งสองตัวยังแสดงผลแตกต่างกันไปอีกด้วย



HTML ถือได้ว่าเป็นภาษาที่ง่ายที่สุดบนเว็บ ผู้ศึกษาไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งใดๆ ทั้งสิ้น คำสั่งก็จดจำง่ายและสื่อความหาายได้ในตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญปัจจุบันมีเครื่องมือทั้งที่ต้องเสียเงินและแจกฟรีบนอินเตอร์เน็ตมากมายให้ได้ทดลองใช้ ซอฟต์แวร์เหล่านี้ช่วยให้การเขียนเว็บเพจด้วย HTML เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น และไม่ต้องไปวุ่นวายกับโค้ด HTML เลยเพราะแค่ลากวัตถุที่ต้องการไปวางตำแหน่งที่ต้องการ พิมพ์ข้อความลงไป แค่นี้ซอฟต์แวร์เหล่านั้นก็จะสร้างโค้ด HTML ให้อัตโนมัติ สำหรับส่วนขยายไฟล์ HTML นั้นนิยมใช้กันทั้ง .htm และ .html